การเสริมจมูก
1. การเสริมจมูกด้วยซิลิโคน ซิลิโคนเป็นวัสดุทางการแพทย์ ปรับแต่งรูปทรงขึ้นมาเพื่อใช้ในการเสริมจมูก เป็นวิธีที่แพร่หลายและได้ผลดีมากที่สุด เพราะซิลิโคนแท่งนั้นสามารถที่จะอยู่ในร่างกายมนุษย์ได้โดยไม่มีปฏิกิริยาที่เป็นอันตราย เพราะร่างกายสามารถสร้างพังพืดมาห่อหุ้มแท่งซิลิโคน ให้ยืดอยู่กับเนื้อเยื่อได้เป็นอย่างดี โดยข้อดีของซิลิโคนคือหากต้องการเปลี่ยนหรือเอาออกก็สามารถนำแท่งซิลิโคนออกมาได้หมด ซิลิโคนแท่งที่ใช้ในการเสริมจมูก แบ่งเป็น 2 ประเภท ประเภทซิลิโคนสำเร็จรูป : ซิลิโคนสำเร็จรูป มีรูปร่างพร้อมที่จะใส่มาแล้วจากโรงงาน มีขนาดความกว้างยาวที่ต่างกัน โดยก่อนทำเสริมจมูก แพทย์อาจปรับแต่งรูปทรงของซิลิโคนอีกเล็กน้อย เพื่อให้เหมาะสมกับโครงจมูกของแต่ละราย มีข้อดีคือได้รูปทรงที่แน่นอน โอกาสเอียงมีน้อยมาก และเนื้อซิลิโคนที่มีให้เลือก ความแข็ง-นิ่มได้หลายเกรด ประเภทซิลิโคนที่เหลาเอง : คือ ซิลิโคนแผ่นใหญ่ ๆ นำมาเหลาเองเพื่อให้ได้รูปทรงที่เหมาะกับรูปจมูกของแต่ละราย ไม่ว่าจะต้องการเสริมจมูกโด่งมากน้อยแค่ไหน ก็สามารถควบคุมรูปทรงโดยเหลาปรับแต่งได้ อย่างบริเวณปลายจมูกที่นิยมทำเป็นทรงหยดน้ำ ก็สามารถจัดแต่งได้ โดยต้องใช้ความชำนาญของศัลยแพทย์เป็นอย่างมาก วัสดุซิลิโคนที่มีใช้ในปัจุบัน ซิลิโคนเสริมจมูกของประเทศอเมริกา (USA Silicone) เป็นซิลิโคนมาตรฐานพิเศษ มีความปลอดภัยสูงคุณภาพดี (Medical Grade Silicone) มีความบริสุทธิ์ถึง 100% เนื้อซิลิโคนเป็นสีขาว เนียนละเอียดมาก โดยการสัมผัสแล้วซิลิโคนมีความนิ่มปานกลาง ไม่นิ่มจนเกินไป สามารถเหลาปรับแต่งรูปทรงได้ตามต้องการ มีความยืดหยุ่นสูง นอกจากนี้หลังเสริมยังไม่มีโอกาสที่จะยุบตัวลง ทำให้จมูกโด่ง สวยเนียนมาก เหมาะกับผู้ที่มีเนื้อบริเวณของสันจมูกค่อนข้างมากหรือจมูกยาว (จึงเป็นที่นิยมเลือกใช้กันมากที่สุด)
ซิลิโคนเสริมจมูกของประเทศเกาหลี (Korea Silicone) เป็นซิลิโคนสำเร็จรูปแบบมาตรฐานพิเศษ คือ ช่วงโคนจมูกและปลายจมูกจะ มีความนิ่มมาก ๆ มีความยืดหยุ่นตัวสูง และด้วยความนิ่มมากของซิลิโคนประเภทนี้ ทำให้ สามารถบิดหรืองอจมูกได้ง่าย ทำให้ออกมาได้เหมือนเป็นจมูกที่เป็นธรรมชาติจริง ๆ ไม่มีโอกาสจะทะลุและเอียงได้เลย หลังเสริมจมูกจะดูเป็นธรรมชาติมากที่สุดเน้นสไตล์เกาหลี ไม่เน้นโด่งมากนัก จึงเหมาะสำหรับคนที่อยากเสริมจมูกให้ดูเป็นธรรมชาติ
ซิลิโคนเสริมจมูกของประเทศญี่ปุ่น (Japan Silicone) เป็นซิลิโคนมาตรฐานธรรมดา วัสดุดิบบางตัวนำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น โดยสั่งเข้ามาผลิตในไทย เนื้อซิลิโคนลักษณะเป็นสีเหลืองและค่อนข้างแข็งหลังเสริมจะดูเป็นสันโด่ง แต่ไม่สามารถจับบิดได้
2. การเสริมจมูกด้วย Gore-Tex กอร์เท็กซ์ หรืออีกชื่อว่า PTFE (Polytetrafluoroethylene) คือ วัสดุสังเคราะห์อย่างหนึ่ง เป็นวัสดุที่ได้รับการพิสูจน์ ว่าเป็นวัสดุที่ปลอดภัย ซึ่ง กอร์เท็กซ์ เป็น PTEF ชนิดมีรูพรุนเหมือนฟองน้ำ กอร์เท็กซ์ เป็นที่รู้จัก และถูกยอมรับสำหรับทำเส้นเลือดเทียมมากกว่า 50 ปีแล้วโดยแผ่น กอร์เท็กซ์ ยังได้รับความนิยมนำมาใช้เสริมใบหน้าในทางศัลยกรรม ได้แก่ การ เสริมจมูก ริมฝีปากและร่องแก้ม เป็นต้น โดยโครงสร้างในกอร์เท็กซ์มีรูเล็กๆ หลายรู ขนาด 10-30 ไมครอน ทำให้แตกต่างจากซิลิโคนตรงที่ไม่ก่อให้เกิดแคปซูลหดรัดตัว เนื้อเยื่อรอบๆในร่างกายจะเติบโตผ่านรูเล็กๆ เหล่านี้ได้ ทำให้จมูกมีรูปทรงเป็นธรรมชาติ ดูแทบไม่ออกว่าผ่านการทำศัลยกรรมมา แต่นานๆ ไป รูเล็กๆ เหล่านี้อาจบีบอัดกันและทำให้ความสูงของจมูกลดลง จึงทำให้กอร์เท็กซ์กับซิลิโคนมีข้อเสียต่างกัน กอร์เท็กซ์สามารถที่จะเสริมร่วมกับกระดูกอ่อนหลังใบหูเพื่อทำปลายให้ดูเป็นหยดน้ำ ซึ่งแพทย์จะแนะนำในกรณีที่คนไข้มีความเหมาะสมในการเสริมด้วย แต่กอร์เท็กซ์ยังสามารถช่วยให้รูปทรงของจมูกกลับคืนมาได้ โดยการดัดงุ้ม แต่ก็อาจมีอาการอักเสบอาจเกิดขึ้นได้แต่ไม่บ่อยนัก กอร์เท็กซ์จึงเป็นวัสดุที่ใช้เฉพาะกับคนที่มีผิวหนังบางหรือในการทำศัลยกรรม แก้ไขใหม่
การเสริมจมูกด้วย Gore-Tex แตกต่างกับ Silicone
Gore-Tex มีความแตกต่างจากซิลิโคน โดยซิลิโคนจะถูกล้อมรอบด้วยเนื้อเยื่อร่างกาย เรียกได้ว่า เป็นการแยกส่วนกับเนื้อเยื่อขณะที่ Gore-Tex จะสามารถผสานกับเนื้อเยื่อ ที่อยู่รอบๆ ได้ เนื่องจากรูเล็กๆ ขนาด 0.5-30 ไมครอน ของตัว Gore-Tex ที่ทำให้เนื้อเยื่อแทรกผ่านเข้าไปเจริญเติบโตได้ ดังนั้น Gore-Tex จึงเหมือนกับ กลายเป็นส่วนหนึ่งในร่างกายและไม่ถูกต่อต้านจากร่างกาย
ข้อดีของการการเสริมจมูกด้วย Gore-Tex 1.จมูกสวยได้รูปทรง ดูเป็นธรรมชาติ
2.มีความปลอดภัยเพราะเข้ากับเนื้อเยื่อได้ ไม่เกิดการต่อต้านโดยร่างกาย
3.จัดแต่งรูปทรงจมูกตามต้องการได้ง่ายกว่าแท่งซิลิโคน
4.Gore-Tex จะคงอยู่ได้ถาวร ไม่ถูกย่อยสลาย
3. การเสริมปลายจมูกด้วยกระดูกอ่อนหลังใบหู การนำกระดูกอ่อนหลังใบหูของตัวคนไข้มาช่วยเสริมบริเวณปลายจมูก ในกรณีที่ต้องการจมูกปลายหยดน้ำ หรือในรายที่เสริมจมูกด้วยซิลิโคนสูงมาก จนหนังปลายจมูกบาง จึงใช้กระดูดอ่อนหลังใบหูมาช่วยเสริมรองตำแหน่งปลายจมูก มักเสริมร่วมกับกอร์เท็กซ์ ทำให้รูปปลายจมูกสวยงามเป็นธรรมชาติ ดูแล้วเป็นหยดน้ำ โค้งมน ทำให้ดูเป็นธรรมชาติมาก
ข้อจำกัด : ของการเสริมกระดูกอ่อนหลังใบหูควรมีโครงสร้างจมูกเดิมที่ดีอยู่แล้ว แต่ต้องการแต่งเสริมบางส่วนเท่านั้น หากคนที่มีดั้งจมูกน้อย อาจไม่สามารถทำได้เพราะต้องใช้กระดูกหลังใบหูมากกว่าปกติ ในขณะที่กระดูกหลังใบหูไม่สามารถนำมาใช้เยอะได้ เพราะอาจทำให้หูผิดรูป จึงควรใช้ซิลิโคนแทนในการเสริมจมูก ซึ่งจะให้ผลดีและได้รูปทรงของจมูกตามต้องการมากกว่า
4. การเสริมจมูกด้วยไขมันตัวเอง ผู้ที่อยากเสริมจมูกส่วนหนึ่งมักไม่อยากใช้ซิลิโคนเสริมเนื่องจากมีความรู้สึกว่าเป็นสิ่งแปลกปลอมภายนอก กังวลว่าจะดูไม่เป็นธรรมชาติ กลัวว่าจะมีปัญหาในอนาคต ปัจจุบันก็มีการนำไขมันจากตัวคนไข้เองมาเสริมจมูกซึ่งก็มีความปลอดภัยสูง แต่มีข้อจำกัดของการเสริมจมูกด้วยไขมันคือไขมันบางส่วนละลายไปบ้าง แต่พบน้อยราย โดยไขมันของแต่ละคนจะละลายมากน้อยต่างกัน เช่น ถ้าเป็นคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำไขมันจะแข็งแรงและอยู่ติดทน รวมถึงเทคนิคต่างๆที่ทำของแพทย์ด้วย การเสริมจมูกด้วยวิธีจึงนี้เหมาะสมกับ ผู้ที่มีสภาพปัญหาไม่มาก เช่น ปลายจมูกสวยแต่ขาดดั้งเล็กน้อย ผู้ที่ไม่อยากใช้ซิลิโคนหรือสารภายนอก ผู้ที่ต้องการเสริมให้ดูเป็นธรรมชาติ
ข้อดี
1. มันจะเปลี่ยนแปลงไปตามอายุและตามสรีระคนไข้ ไม่ว่าอ้วนหรือผอม
2. ไม่มีปัญหาเรื่องการแพ้เนื่องจากเป็นเนื้อเยื่อของร่างกายเอง
3. ได้ความเป็นธรรมชาติ
4. ไม่มีปัญหาในเรื่องของทะลุหรือเอียง
ข้อเสีย
1. บางคนไม่สามารถปลูกถ่ายย้ายไขมันได้ถ้ามีรูปทรงจมูกของเดิมไม่ดีเพราะไม่สามารถงัด ตัด หรือบิดได้
2. รูปร่างของจมูกอาจจะไม่ได้ตามต้องการเหมือนการเสริมด้วยซิลิโคนหรือวัสดุที่คงรูปกว่า
วิธีการการเสริมจมูกด้วยไขมัน สามารถทำได้ 2 วิธี คือ
1. ใช้วิธีการดูดไขมันด้วย ใช้เข็มดูดขนาดเล็ก ดูดไขมันจากหน้าท้องหรือต้นขา แล้วแยกเอาไขมันที่กลายเป็นน้ำออก เอาเฉพาะส่วนไขมันที่ยังคงสภาพเป็นเซลล์อยู่ นำไปฉีดเข้าใต้ผิวหนังบริเวณที่จะเสริมจมูก
2. ตัดไขมันจากบริเวณหน้า, ต้นขา, ก้นกบ มาเป็นชิ้น แล้วนำไปสอดเข้าใต้ผิวหนังบริเวณจมูกที่ต้องการเสริม
การดูแลบาดแผล
• ในช่วง 1-2 วันแรก ควรพักผ่อนมากๆ หลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย และระวังการกระทบกระแทก
• ไม่ให้บาดแผลโดนน้ำอย่างน้อย 5 วัน หลังจากนั้นล้างหน้าได้ตามปกติ
• นอนหนุนศีรษะให้สูงปกติ
• ประคบด้วยน้ำแข็งใน 1-2 วันแรก (ประคบครั้งละ 15 นาที และเว้นระยะห่าง 15 นาที)
• ควรรับประทานอาหารอ่อน งดอาหารแข็งที่ต้องขบเคี้ยว
• ไม่ควรแกะบาดแผลหรือเศษเลือดที่ติดอยู่และไม่สั่งน้ำมูกแรงๆ
• ถ้ามีอาการผิดปกติ ให้ไปพบแพทย์
• ห้ามทายาฮีรูดอยล์หรือยาอื่นๆ ที่แผล
|